หุ้นไทยปิดเช้าทะยาน 14.62 จุด วอลุ่ม 5.6 หมื่นล้าน รีบาวด์หลังลงลึกคล้ายตลาดภูมิภาค

 

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(1 ธ.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 1,583.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.62 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขายราว 56,899 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,585.30 จุด และระดับต่ำสุด 1,563.04 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่มีกรเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน แต่จะอิงไปทางบวกมากกว่า โดยตลาดบ้านเราก็ติดลบบ้างในระหว่างทาง แต่ก็สามารถกลับมายืนในแดนบวกได้ หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวลงไปมากเกือบ 100 จุดในช่วงไม่กี่วันมานี้ ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่ชื่อ”โอไมครอน” อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็จะเร่งปรับลดโครงการแทงหวย24ซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งคาดว่าเฟดอาจจะยุติการทำ QE ในช่วงกลางปี 65 ทำให้ตลาดต่างจับตามอง แต่ตลาดฯก็รับรู้ไปส่วนหนึ่งแล้ว

โดยตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่หนุน และรอดูพัฒนาการของวัคซีนที่จะมาต้านเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน รวมไปถึงมีการจับตาดูว่าเชื้อโอไมครอนจะเล็ดลอดเข้ามาในไทยหรือไม่ด้วย อีกทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะรุนแรงแค่ไหน แต่ละประเทศจะมี Action อย่างไรบ้างหากเจอเชื้อโอไมครอน แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯน่าจะยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,570 จุดได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,590 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,159.25 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาทเพิ่มขึ้น 3.50 บาท

KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,682.56 ล้านบาท ปิดที่ 88.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,517.03 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น3.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,423.19 ล้านบาท ปิดที่ 80.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,416.29 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

หุ้นไทยดีดตามตปท.รับรู้ไวรัสโอไมครอนสหรัฐฯยันไม่ล็อกดาวน์ หนุนปิด+22.12 จุด วอลุ่ม 9.3 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (1 ธ.ค.2564) ปรับตัวขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากที่ได้ตอบรับเรื่องไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไปแล้วในระดับหนึ่ง และทางสหรัฐฯยืนยันจะไม่ล็อกดาวน์ด้วยแม้จะต้องเผชิญกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ และให้ติดตามเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ

ขณะที่บ้านเราได้แรงหนุนหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองที่ดีดตัวขึ้นมาหลังจากที่ทรุดตัวแรงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ระดับ 1,590.81 จุด เพิ่มขึ้น 22.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 93,864.33 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
AOT ปิดที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ADVANC ปิดที่ 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
SCB ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTT ปิดที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

  ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(1 ธ.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 1,583.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.62 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขายราว 56,899 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,585.30 จุด และระดับต่ำสุด 1,563.04 จุด นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่มีกรเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน แต่จะอิงไปทางบวกมากกว่า โดยตลาดบ้านเราก็ติดลบบ้างในระหว่างทาง แต่ก็สามารถกลับมายืนในแดนบวกได้ หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวลงไปมากเกือบ 100 จุดในช่วงไม่กี่วันมานี้ ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่ชื่อ”โอไมครอน” อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็จะเร่งปรับลดโครงการแทงหวย24ซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งคาดว่าเฟดอาจจะยุติการทำ QE ในช่วงกลางปี 65 ทำให้ตลาดต่างจับตามอง แต่ตลาดฯก็รับรู้ไปส่วนหนึ่งแล้ว โดยตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่หนุน และรอดูพัฒนาการของวัคซีนที่จะมาต้านเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน รวมไปถึงมีการจับตาดูว่าเชื้อโอไมครอนจะเล็ดลอดเข้ามาในไทยหรือไม่ด้วย อีกทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะรุนแรงแค่ไหน แต่ละประเทศจะมี Action อย่างไรบ้างหากเจอเชื้อโอไมครอน…