ตลาดหุ้นจับตาประชุม NATO ชี้ชะตา “รัสเซีย-ยูเครน”

สัปดาห์ที่ผ่านมา (14-18 มี.ค.) ตลาดหุ้นไทยตอบรับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเชิงบวก ซึ่งเป็นไปตามตลาดหุ้นสหรัฐที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด

มองไปในสัปดาห์ข้างหน้านี้ (21-25 มี.ค.) “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัว sideway ในทิศทางอ่อนตัวลง เพื่อพักฐานหลังจากปรับตัวขึ้นไปเกือบ 100 จุด ในช่วงที่ผ่านมา

โดยให้กรอบดัชนีไว้ที่ระดับ 1,660-1,700 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดี จากหลายปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุน ทั้งเรื่องของความคาดหวังเชิงบวกในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน และประเทศจีนที่ออกมาให้ข่าวว่า พร้อมจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงยังคงสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้นโยบายที่จะเอื้อต่อตลาดทุนมากขึ้น

ขณะที่ฟันด์โฟลว์เริ่มมีท่าทีทยอยไหลกลับเข้ามาระลอกใหม่ หลังจากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และจะเป็นการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมช่วงที่เหลือของปีนี้

“การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป น่าจะไม่ได้เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของตลาด จึงทำให้เป็นบรรยากาศ (sentiment) เชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุน และเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนในสัปดาห์ข้างหน้านี้ นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์รัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีการประชุมผู้นำ NATO ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีของยุโรปที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งต้องจับตาดูทั้งสองการประชุมว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อสถานการณ์รัสเซียกับยูเครน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพการลงทุน”

ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ แนะนำหุ้นเด่นที่น่าสนใจ ยังเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ BBL กับ KBANK และกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ CRC กับ MAKRO ซึ่งนักลงทุนสามารถหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นเหล่านี้ได้

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance

สัปดาห์ที่ผ่านมา (14-18 มี.ค.) ตลาดหุ้นไทยตอบรับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเชิงบวก ซึ่งเป็นไปตามตลาดหุ้นสหรัฐที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด มองไปในสัปดาห์ข้างหน้านี้ (21-25 มี.ค.) “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัว sideway ในทิศทางอ่อนตัวลง เพื่อพักฐานหลังจากปรับตัวขึ้นไปเกือบ 100 จุด ในช่วงที่ผ่านมา โดยให้กรอบดัชนีไว้ที่ระดับ 1,660-1,700 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดี จากหลายปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุน ทั้งเรื่องของความคาดหวังเชิงบวกในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน และประเทศจีนที่ออกมาให้ข่าวว่า พร้อมจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงยังคงสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้นโยบายที่จะเอื้อต่อตลาดทุนมากขึ้น ขณะที่ฟันด์โฟลว์เริ่มมีท่าทีทยอยไหลกลับเข้ามาระลอกใหม่ หลังจากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และจะเป็นการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมช่วงที่เหลือของปีนี้ “การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป น่าจะไม่ได้เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของตลาด จึงทำให้เป็นบรรยากาศ (sentiment) เชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุน และเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนในสัปดาห์ข้างหน้านี้ นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์รัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีการประชุมผู้นำ NATO ในวันที่ 24…